ประกันอุบัติเหตุ

ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ: ปกป้องคุณในทุกการเดินทาง ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญ ค้นหาประกันที่เหมาะสมเพื่อให้คุณและคนที่คุณรักมีความมั่นใจในทุกๆ วัน ประโยชน์ของประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ การชดเชยค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์: หากเกิดอุบัติเหตุ คุณจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งอาจรวมถึงค่าปรับฟื้นฟู หรือค่ารักษาในโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายจากการสูญเสียรายได้: ช่วยให้คุณมีรายได้ในช่วงที่ไม่สามารถทำงานได้ ความอุ่นใจในทุกการเดินทาง: ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไรหรือเดินทางไปที่ไหน ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุจะช่วยลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการปกป้องคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคุ้มครองและข้อเสนอต่างๆ จะช่วยให้คุณเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

🛡️ ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองทันที – สมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์

💡 คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เสียชีวิต ทุพพลภาพ เบี้ยเริ่มต้นเพียง วันละ 6 บาท

รายละเอียดแบบประกัน 👇

ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ

ถ้าอีก5ปี เป็นโรคร้ายแรง คิดว่าควรเตรียมเงินไว้ที่เท่าไหร่???

การเตรียมเงินสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของโรค ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลระยะยาว และสถานพยาบาลที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ ซึ่งในประเทศไทยนั้นคาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8-10% ต่อปี

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ควรพิจารณา:

1. ค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้น: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มีค่าใช้จ่ายสูงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและวิธีการรักษา
• การรักษามะเร็งอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 ถึง 1,000,000 บาทต่อปี
• การผ่าตัดหัวใจอาจมีค่าใช้จ่าย 400,000 ถึง 700,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หากต้องมีการรักษาต่อเนื่อง เช่น การทำเคมีบำบัด รังสีบำบัด หรือการฟื้นฟูร่างกาย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีหลังการรักษาหลัก
3. ค่าดูแลเพิ่มเติม: อาจต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลที่บ้าน (Home Care) หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้อีกหลายหมื่นถึงแสนบาท
4. ค่าครองชีพระหว่างการหยุดงาน: หากคุณไม่สามารถทำงานได้ในระหว่างการรักษาหรือฟื้นฟู อาจต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่หายไปในช่วงนี้ ซึ่งควรเตรียมเงินสำรองไว้ประมาณ 1-3 ปีของรายได้ปัจจุบัน

ทำไมถึงควรมีประกันโรคร้ายแรง ?

1. คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่สูง: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย หรือไตวาย มักมีค่าใช้จ่ายสูงมาก รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการรักษาแบบเฉพาะทาง และการดูแลหลังการรักษา ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้น

2. คุ้มครองรายได้ที่หายไป: เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง ผู้ป่วยมักจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้สูญเสียรายได้ไป ประกันโรคร้ายแรงสามารถให้เงินก้อนเพื่อช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางการเงินได้ดีขึ้น

3. ลดภาระของครอบครัว: การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวด้วย การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยลดภาระด้านการเงินให้กับคนในครอบครัว และทำให้พวกเขาสามารถมีเวลาและพลังใจในการดูแลคุณได้ดียิ่งขึ้น

4. สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด: ด้วยการสนับสนุนจากประกันโรคร้ายแรง คุณสามารถเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้มีโอกาสหายหรือฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5. เสริมสร้างความอุ่นใจ: การมีประกันโรคร้ายแรงช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับสุขภาพ คุณและครอบครัวจะมีหลักประกันทางการเงิน ช่วยให้คุณสามารถมีสมาธิกับการฟื้นฟูร่างกายมากกว่าการกังวลเรื่องเงิน

6. คุ้มครองหลากหลายโรค: ประกันโรคร้ายแรงมักครอบคลุมหลากหลายโรค ทั้งโรคที่พบบ่อยและโรคที่รุนแรง ซึ่งทำให้คุณได้รับการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น

New Health Standard

รายละเอียดเปรียบเทียบระหว่างมาตรฐานใหม่กับแบบเก่า:

1. ความครอบคลุมของโรค
• แบบเก่า: มีความครอบคลุมของโรคที่จำกัด บางโรคหรือเงื่อนไขอาจไม่ได้รับความคุ้มครองหรือได้รับการคุ้มครองบางส่วน
• แบบใหม่: ขยายความครอบคลุมให้ครอบคลุมโรคและเงื่อนไขทางการแพทย์ที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง
2. ความโปร่งใสในเงื่อนไขการรับประกัน
• แบบเก่า: บางครั้งอาจมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคสับสนและเข้าใจผิด
• แบบใหม่: มีการระบุเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ชัดเจนและโปร่งใสขึ้น ทำให้ผู้บริโภคทราบถึงสิทธิและข้อจำกัดของกรมธรรม์อย่างชัดเจน
3. การพิจารณาและยกเว้น
• แบบเก่า: มีเงื่อนไขการยกเว้นที่ค่อนข้างกว้าง เช่น การยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อน (Pre-existing conditions) หรือการรักษาบางประเภท
• แบบใหม่: ลดข้อยกเว้นลง เช่น การพิจารณาโรคที่เป็นมาก่อนจะเน้นที่ความเป็นธรรมมากขึ้น และให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
4. การปรับปรุงเบี้ยประกัน
• แบบเก่า: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันมักไม่ได้อิงกับความเป็นจริงหรือการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัยในปัจจุบัน
• แบบใหม่: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันจะพิจารณาจากข้อมูลสุขภาพจริงของผู้เอาประกันภัย และมีการกำหนดมาตรฐานในการปรับเบี้ยประกันที่เป็นธรรม
5. การเคลมประกัน
• แบบเก่า: อาจมีขั้นตอนการเคลมที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการพิจารณา
• แบบใหม่: ปรับปรุงขั้นตอนการเคลมให้รวดเร็วและโปร่งใสขึ้น มีการกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเคลมที่ชัดเจน
6. การคุ้มครองผลประโยชน์เพิ่มเติม
• แบบเก่า: อาจมีผลประโยชน์เพิ่มเติมไม่มากนัก
• แบบใหม่: เพิ่มความคุ้มครองและผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ค่าห้องพัก การรักษาฉุกเฉิน และการตรวจสุขภาพ

ติดต่อตัวแทน

ภัทรภร วริชพัฒนกร

ภัทรภร วริชพัฒนกร ( ตูน )
รหัสตัวแทน 687570
เลขที่ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต 6701022900
เลขที่ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน 132278
AIA
ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ
ภัทรภร วริชพัฒนกร