บทความ

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

ทุนประกันชีวิตสำคัญเพราะเหตุผลหลายประการ:

1. **ความมั่นคงทางการเงิน**: ทุนประกันชีวิตช่วยให้ครอบครัวของผู้เอาประกันมีเงินเพียงพอในการดำรงชีวิต หากผู้เอาประกันเสียชีวิต

2. **ชำระหนี้สิน**: สามารถใช้เงินจากทุนประกันชีวิตเพื่อชำระหนี้สินต่าง ๆ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือหนี้บัตรเครดิต

3. **ค่าใช้จ่ายในการศึกษา**: สามารถใช้เงินจากทุนประกันชีวิตเพื่อการศึกษาของบุตรหลานได้

4. **ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต**: ช่วยให้ครอบครัวของผู้เอาประกันสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

5. **การวางแผนการเงินระยะยาว**: ทุนประกันชีวิตสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาว เช่น การเก็บออมเพื่อการเกษียณ

6. **ความสงบใจ**: การมีทุนประกันชีวิตทำให้ผู้เอาประกันมีความสงบใจ รู้ว่าครอบครัวจะได้รับการดูแลหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ทุนประกันชีวิตจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นคงและความมั่นใจในการดำเนินชีวิตของครอบครัวผู้เอาประกันในอนาคต

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษี

ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษีที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมายของประเทศไทย การซื้อประกันชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยให้มีความคุ้มครองสำหรับตัวเองและครอบครัว แต่ยังสามารถใช้เป็นประโยชน์ในการลดภาระภาษีได้ด้วย

การลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันชีวิต

1. **ประกันชีวิตทั่วไป**:
– เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระเพื่อทำประกันชีวิตให้ตนเอง สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
– ประกันชีวิตต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่า 10 ปี

2. **ประกันสุขภาพ**:
– เบี้ยประกันสุขภาพที่ชำระสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
– เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี



เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด: บทบาทของประกันชีวิต

ในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและชาญฉลาดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้คุณและครอบครัวมีความมั่นคงและปลอดภัยทางการเงิน หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในการวางแผนการเงินคือ “ประกันชีวิต” ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงทางการเงินของครอบครัว ดังนี้:

1. **การคุ้มครองรายได้**
ประกันชีวิตช่วยให้ครอบครัวของคุณมีความมั่นคงทางการเงินในกรณีที่คุณเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิตหรือการทุพพลภาพที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ประกันชีวิตจะช่วยคุ้มครองรายได้ของครอบครัว เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน

2. **การชำระหนี้สิน**
หากคุณมีหนี้สิน เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ประกันชีวิตสามารถช่วยชำระหนี้สินเหล่านี้ในกรณีที่คุณไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินที่อาจตกอยู่กับครอบครัว


เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ฝุ่น PM2.5 ( ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน)

ฝุ่น PM2.5 (Particulate Matter ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน) สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะในระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต เนื่องจากฝุ่นขนาดเล็กนี้สามารถเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย สาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5 ได้แก่:
โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ
1. โรคหอบหืด (Asthma)
ฝุ่น PM2.5 อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดหรือทำให้อาการรุนแรงขึ้น
2. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
ฝุ่นละอองสามารถทำให้ปอดเสื่อมสภาพและนำไปสู่โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
3. โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema)
การสะสมของฝุ่นในปอดอาจทำให้เนื้อเยื่อปอดเสียหาย
โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
1. โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease)
PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
2. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ไวรัส HMPV (Human Metapneumovirus)

 เป็นไวรัสในตระกูลเดียวกับไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) และไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยไวรัสนี้สามารถติดเชื้อได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
อาการของการติดเชื้อ HMPV
1. อาการเบื้องต้น:
• ไข้
• ไอ
• น้ำมูกไหล
• เจ็บคอ
• หายใจลำบาก (ในกรณีรุนแรง)
2. ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง:
• ปอดบวม (Pneumonia)
• หลอดลมอักเสบ (Bronchiolitis)
• ภาวะหายใจล้มเหลว (Respiratory Failure)

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ประกันชีวิตสำหรับผู้อาวุโส ซีเนียร์แฮปปี้

ประกันชีวิตสำหรับผู้อาวุโส ซีเนียร์แฮปปี้ ❤️เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีความสำคัญและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนี้ในหลายด้าน ดังนี้:
1. ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
• ผู้สูงอายุหลายคนอาจกังวลเรื่องสุขภาพและการเข้าถึงประกันชีวิต
• ซีเนียร์แฮปปี้ ช่วยลดข้อจำกัดนี้ ทำให้สมัครได้ง่ายโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ
2. ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต
• ให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ
• ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายงานศพหรือภาระหนี้สินที่อาจตกทอดสู่ลูกหลาน
3. เบี้ยประกันคงที่
• เบี้ยประกันมีความคงที่ตลอดอายุกรมธรรม์ ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

การวางแผนการเงิน ไม่ใช่เรื่อง ของคนจน คนรวย แต่ เป็นเรื่องของทุกคน 💸

การวางแผนการเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อความมั่นคงและคุณภาพชีวิตในระยะยาว สาเหตุที่ทุกคนควรวางแผนการเงินมีดังนี้

1. การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
การวางแผนการเงินช่วยให้คุณสามารถวางเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เช่น ซื้อบ้าน การศึกษา การเกษียณ และช่วยสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของคุณและครอบครัว
.
2. การจัดการความเสี่ยง
ชีวิตมีความไม่แน่นอน เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การวางแผนการเงินที่ดีช่วยเตรียมความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ เช่น การทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

เงินเดือน 50,000 บาท ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลเท่าไหร่ ?

การคำนวณภาษี:
1. ส่วนที่ 150,001 – 300,000 บาท:
(300,000 – 150,000) × 5% = 7,500 บาท
2. ส่วนที่ 300,001 – 431,000 บาท:
(431,000 – 300,000) × 10% = 13,100 บาท
รวมภาษีที่ต้องจ่าย:
7,500 + 13,100 = 20,600 บาท
สรุป
คุณต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 20,600 บาทต่อปี หรือเฉลี่ยประมาณ 1,717 บาทต่อเดือน (ยังไม่รวมการหัก ณ ที่จ่ายถ้ามี)

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

การมี ประกันชีวิต อยู่ในแผนการเงินและการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation)

การมี ประกันชีวิต อยู่ในแผนการเงินและการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะประกันชีวิตไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง แต่ยังมีบทบาทในการช่วยบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว โดยมีเหตุผลหลักดังนี้:
1. ป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือเจ็บป่วยร้ายแรง ประกันชีวิตจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อครอบครัวและทรัพย์สิน โดย:
• ช่วยชำระหนี้สิน เช่น บ้านหรือสินเชื่อ
• เป็นหลักประกันให้ครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ในความดูแลมีเงินใช้จ่ายในอนาคต
ตัวอย่าง: หากคุณวางแผนลงทุนเพื่อเก็บเงินส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยในอีก 15 ปี แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้ ประกันชีวิตช่วยให้เป้าหมายนี้ยังสำเร็จได้แม้ไม่มีรายได้หลัก
2. สร้างเสถียรภาพให้พอร์ตการเงิน
ประกันชีวิตช่วยให้พอร์ตการลงทุนไม่ต้องถูกกระทบในยามฉุกเฉิน เพราะ:
• หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือการสูญเสียรายได้จากการเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะยังคงได้รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องดึงเงินจากพอร์ตการลงทุนหลัก

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ออมเงินกับบริษัทประกัน แล้วคุณจะได้อะไรบ้าง?

หลายคนมองว่าประกันมีไว้แค่คุ้มครอง แต่รู้ไหมว่า “ประกัน” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออมเงินที่ให้มากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร และยังช่วยสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของคุณได้ด้วย

1. เงินออม + ผลตอบแทนที่แน่นอน
สรุปง่าย ๆ: ออมเงินกับประกัน = ออม + คุ้มครอง + ลดหย่อนภาษี + สร้างหลักประกันให้ชีวิต
2. ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ
3. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
4. ออมเงินอย่างมั่นคง ไม่เสี่ยง
5. ส่งต่อเป็นมรดกได้

ถ้าคุณกำลังมองหาการออมที่ให้มากกว่าธนาคาร ลองเปิดใจให้ “การออมผ่านประกัน” แล้วคุณจะได้มากกว่าที่คิด!

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ ครอบครัวจะอยู่ยังไง?

– ภาระหนี้สิน ค่าใช้จ่ายของลูก หรือพ่อแม่สูงวัย ใครจะช่วยดูแล?

– ถ้าเจ็บป่วยหนักแล้วต้องใช้เงินล้าน คุณมีเงินสำรองหรือยัง?

“ ถ้าวันนี้คุณเป็นคนที่คิดถึงคนข้างหลังอยู่เสมอ อย่าลืมปกป้องพวกเขาด้วยประกันชีวิต ❤️

บางคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ถ้าวันนึงเกิดเหตุการ ความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้ คุณแม่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร แล้ว ลูกเขาจะอยู่ยังไง จะถึงฝั่งฝันไหม หลายๆครอบครัวจึงปิด ความเสี่ยง ด้วยประกันชีวิต

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

เจ้าของธุรกิจมักทำประกัน คีย์แมน (Keyman Insurance) 🏙️

เพื่อปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากบุคคลสำคัญในองค์กรเสียชีวิตหรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งมีเหตุผลสำคัญดังนี้:

1. ปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจ
2. ชดเชยความเสียหายทางการเงิน
3. สร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นและคู่ค้า
4. ปกป้องความสามารถในการกู้ยืม
5. วางแผนการสืบทอดธุรกิจ (Business Succession Planning)
6. ลดผลกระทบต่อทีมงานและการดำเนินงาน
สรุป

ประกันคีย์แมนเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจในการปกป้ององค์กรจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ และช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ทุนประกันชีวิตมีความสำคัญอย่างมากสำหรับหัวหน้าครอบครัว

1. ปกป้องครอบครัวจากภาระทางการเงินหากหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ทุนประกันชีวิตจะช่วยให้ครอบครัวได้รับเงินก้อนเพื่อชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป
2. ชำระหนี้สิน: หากหัวหน้าครอบครัวมีหนี้สิน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ
3. การศึกษาและอนาคตของบุตรหลาน: ทุนประกันชีวิตสามารถจัดสรรเพื่อการศึกษาและการดำเนินชีวิตในอนาคตของบุตรหลาน
4. การวางแผนมรดก: ทุนประกันชีวิตสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนมรดก ทำให้ผู้รับประโยชน์ได้รับเงินโดยไม่ต้องมีการแย่งชิง
5. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน: การจากไปของหัวหน้าครอบครัวอาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
การมีทุนประกันชีวิตจึงเป็นการสร้างหลักประกันให้กับครอบครัว ช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงินและพร้อมเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
 

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

📍ถ้าเลือกได้ เราอยากเป็น คนแบบไหน ??

การมีประกันสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินและเพิ่มความมั่นคงในชีวิตในหลายด้าน
1. ลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์
ค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเจ็บป่วยร้ายแรง เช่น การผ่าตัด หรือการรักษาโรคร้ายแรง
2. เข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้น
ประกันสุขภาพช่วยให้คุณเข้าถึงการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน
3. วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น
เมื่อมีประกันสุขภาพ คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับสุขภาพได้ 
4. ความคุ้มครองโรคร้ายแรง
5. ดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
บางแผนประกันครอบคลุมค่าตรวจสุขภาพประจำปี วัคซีน 
6. ลดผลกระทบต่อครอบครัว
หากคุณต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพโดยไม่มีประกัน 
7. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
การมีประกันสุขภาพไม่ใช่แค่การป้องกันความเสี่ยง แต่ยังเป็นการลงทุนในสุขภาพและความมั่นคงของคุณและครอบครัวในระยะยาวอีกด้วย

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

เจ้าของธุรกิจมักทำประกัน คีย์แมน (Keyman Insurance) 🏙️

เพื่อปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากบุคคลสำคัญในองค์กรเสียชีวิตหรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ซึ่งมีเหตุผลสำคัญดังนี้:

1. ปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจ
2. ชดเชยความเสียหายทางการเงิน
3. สร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นและคู่ค้า
4. ปกป้องความสามารถในการกู้ยืม
5. วางแผนการสืบทอดธุรกิจ (Business Succession Planning)
6. ลดผลกระทบต่อทีมงานและการดำเนินงาน
สรุป

ประกันคีย์แมนเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจในการปกป้ององค์กรจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ และช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ประกันชีวิตถือเป็นเครื่องมือสำคัญในแผนการเงินที่ช่วยสร้างความมั่นคงและคุ้มครองความเสี่ยงในระยะยาว โดยมีบทบาทและประโยชน์ในการวางแผนการเงิน

1. การคุ้มครองความเสี่ยงและรักษามูลค่าทรัพย์สิน
2. การสร้างเงินออมระยะยาว
3. การลดหย่อนภาษี
4. การป้องกันหนี้สิน
5. การวางแผนเพื่อมรดกและการส่งต่อทรัพย์สิน
6. การเพิ่มมูลค่าการลงทุน
7. การวางแผนสภาพคล่อง
ประกันชีวิตถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนการเงินที่ช่วยลดความเสี่ยง สร้างความมั่นคง และเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินและการออมในระยะยาว การเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและความต้องการส่วนบุคคลจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มคนที่อายุน้อยลงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย ได้แก่

1. โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases – NCDs)
• โรคมะเร็ง: โรคมะเร็งหลายประเภท เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปอด 
• โรคหัวใจและหลอดเลือด: ความเครียด 
• โรคเบาหวาน
2. พฤติกรรมเสี่ยง
• การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์: การใช้สารเสพติดเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อยสามารถเ
• การใช้สารเสพติด:
3. อุบัติเหตุและการบาดเจ็บ
• อุบัติเหตุทางถนน
• การบาดเจ็บจากกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง 
4. ปัญหาสุขภาพจิต
• ภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย
5. โรคติดเชื้อที่รุนแรง
• โรคติดเชื้อ เช่น โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ส

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

การทำประกันช่วยประหยัดภาษีได้

1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป
• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี: เบี้ยประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป 
2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ
• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ (ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี): 
3. ประกันสุขภาพตนเอง
• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
4. ประกันสุขภาพบิดามารดา
• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี
5. ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked)
• ลดหย่อนภาษีได้เหมือนประกันชีวิตทั่วไป: ประกันชีวิตควบการลงทุนสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตส่วนที่เป็นความคุ้มครอง (Protection) มาลดหย่อนภาษีได้ตามสิทธิประกันชีวิตทั่วไป 

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ถ้าอีก5ปี เป็นโรคร้ายแรง คิดว่าควรเตรียมเงินไว้ที่เท่าไหร่???

การเตรียมเงินสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของโรค ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลระยะยาว และสถานพยาบาลที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ ซึ่งในประเทศไทยนั้นคาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8-10% ต่อปี

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ควรพิจารณา:

1. ค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้น: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มีค่าใช้จ่ายสูงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและวิธีการรักษา
• การรักษามะเร็งอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 ถึง 1,000,000 บาทต่อปี
• การผ่าตัดหัวใจอาจมีค่าใช้จ่าย 400,000 ถึง 700,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หากต้องมีการรักษาต่อเนื่อง เช่น การทำเคมีบำบัด รังสีบำบัด หรือการฟื้นฟูร่างกาย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีหลังการรักษาหลัก
3. ค่าดูแลเพิ่มเติม: อาจต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลที่บ้าน (Home Care) หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้อีกหลายหมื่นถึงแสนบาท
4. ค่าครองชีพระหว่างการหยุดงาน: หากคุณไม่สามารถทำงานได้ในระหว่างการรักษาหรือฟื้นฟู อาจต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่หายไปในช่วงนี้ ซึ่งควรเตรียมเงินสำรองไว้ประมาณ 1-3 ปีของรายได้ปัจจุบัน

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ทำไมถึงควรมีประกันโรคร้ายแรง ?

1. คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่สูง: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย หรือไตวาย มักมีค่าใช้จ่ายสูงมาก รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการรักษาแบบเฉพาะทาง และการดูแลหลังการรักษา ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้น

2. คุ้มครองรายได้ที่หายไป: เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง ผู้ป่วยมักจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้สูญเสียรายได้ไป ประกันโรคร้ายแรงสามารถให้เงินก้อนเพื่อช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางการเงินได้ดีขึ้น

3. ลดภาระของครอบครัว: การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวด้วย การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยลดภาระด้านการเงินให้กับคนในครอบครัว และทำให้พวกเขาสามารถมีเวลาและพลังใจในการดูแลคุณได้ดียิ่งขึ้น

4. สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด: ด้วยการสนับสนุนจากประกันโรคร้ายแรง คุณสามารถเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้มีโอกาสหายหรือฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5. เสริมสร้างความอุ่นใจ: การมีประกันโรคร้ายแรงช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับสุขภาพ คุณและครอบครัวจะมีหลักประกันทางการเงิน ช่วยให้คุณสามารถมีสมาธิกับการฟื้นฟูร่างกายมากกว่าการกังวลเรื่องเงิน

6. คุ้มครองหลากหลายโรค: ประกันโรคร้ายแรงมักครอบคลุมหลากหลายโรค ทั้งโรคที่พบบ่อยและโรคที่รุนแรง ซึ่งทำให้คุณได้รับการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

New Health Standard

รายละเอียดเปรียบเทียบระหว่างมาตรฐานใหม่กับแบบเก่า:

1. ความครอบคลุมของโรค
• แบบเก่า: มีความครอบคลุมของโรคที่จำกัด บางโรคหรือเงื่อนไขอาจไม่ได้รับความคุ้มครองหรือได้รับการคุ้มครองบางส่วน
• แบบใหม่: ขยายความครอบคลุมให้ครอบคลุมโรคและเงื่อนไขทางการแพทย์ที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง
2. ความโปร่งใสในเงื่อนไขการรับประกัน
• แบบเก่า: บางครั้งอาจมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคสับสนและเข้าใจผิด
• แบบใหม่: มีการระบุเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ชัดเจนและโปร่งใสขึ้น ทำให้ผู้บริโภคทราบถึงสิทธิและข้อจำกัดของกรมธรรม์อย่างชัดเจน
3. การพิจารณาและยกเว้น
• แบบเก่า: มีเงื่อนไขการยกเว้นที่ค่อนข้างกว้าง เช่น การยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อน (Pre-existing conditions) หรือการรักษาบางประเภท
• แบบใหม่: ลดข้อยกเว้นลง เช่น การพิจารณาโรคที่เป็นมาก่อนจะเน้นที่ความเป็นธรรมมากขึ้น และให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
4. การปรับปรุงเบี้ยประกัน
• แบบเก่า: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันมักไม่ได้อิงกับความเป็นจริงหรือการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัยในปัจจุบัน
• แบบใหม่: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันจะพิจารณาจากข้อมูลสุขภาพจริงของผู้เอาประกันภัย และมีการกำหนดมาตรฐานในการปรับเบี้ยประกันที่เป็นธรรม
5. การเคลมประกัน
• แบบเก่า: อาจมีขั้นตอนการเคลมที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการพิจารณา
• แบบใหม่: ปรับปรุงขั้นตอนการเคลมให้รวดเร็วและโปร่งใสขึ้น มีการกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเคลมที่ชัดเจน
6. การคุ้มครองผลประโยชน์เพิ่มเติม
• แบบเก่า: อาจมีผลประโยชน์เพิ่มเติมไม่มากนัก
• แบบใหม่: เพิ่มความคุ้มครองและผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ค่าห้องพัก การรักษาฉุกเฉิน และการตรวจสุขภาพ

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

เจ้าของกิจการทำประกันคีย์แมน (Keyman Insurance) 

1. ป้องกันความเสี่ยงจากการขาดบุคลากรสำคัญ: บุคคลเหล่านี้มีบทบาทที่ขับเคลื่อนธุรกิจทั้งด้านการบริหารและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การขาดบุคคลสำคัญอาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักหรือสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน
.
2. ช่วยฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว: ประกันคีย์แมนช่วยให้ธุรกิจมีเงินทุนเพื่อใช้ในการปรับตัว เช่น การจ้างบุคลากรใหม่ การฝึกอบรม หรือการปรับโครงสร้างทีมให้เข้ากับสถานการณ์
.
3. ปกป้องความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ถือหุ้น: การมีประกันคีย์แมนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นว่า ธุรกิจมีมาตรการรองรับกรณีที่บุคลากรสำคัญไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
.
4. เสริมความมั่นคงด้านการเงิน: หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับบุคลากรสำคัญ ประกันคีย์แมนจะจ่ายเงินชดเชยที่ช่วยลดภาระหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจมีสภาพคล่องในการดำเนินงาน
.
5. เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ: บางครั้งธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับธุรกิจโดยมีประกันคีย์แมนเป็นหลักประกัน ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

TVM หรือ Time Value of Money

TVM หรือ Time Value of Money คือ แนวคิดทางการเงินที่อธิบายถึงมูลค่าของเงินที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เนื่องจากเงินสามารถสร้างผลตอบแทนได้ เช่น ดอกเบี้ย หรือผลกำไรจากการลงทุน ทำให้เงินที่เรามีในปัจจุบันมีค่ามากกว่าเงินในอนาคต หากสามารถนำไปลงทุนและสร้างผลตอบแทนได้

หลักการของ TVM มีองค์ประกอบหลัก ได้แก่

1. ดอกเบี้ยหรืออัตราผลตอบแทน: เมื่อเวลาผ่านไป เงินสามารถสร้างดอกเบี้ยหรือผลตอบแทน ซึ่งทำให้มูลค่าเงินเพิ่มขึ้น
.
2. มูลค่าปัจจุบัน (Present Value – PV): มูลค่าของเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากนำไปลงทุน จะเพิ่มมูลค่าขึ้นตามเวลา
.
3. มูลค่าในอนาคต (Future Value – FV): มูลค่าของเงินในอนาคตหลังจากผ่านกระบวนการเติบโตด้วยอัตราผลตอบแทน
.
4. จำนวนงวด (Number of Periods): ช่วงเวลาที่ใช้ในการลงทุนหรือการสะสมเงิน เช่น เป็นรายปี รายเดือน
.
5. การทบต้น (Compounding): ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่ได้จะนำกลับไปลงทุน ทำให้เกิดการทบต้นของเงินต้นและผลตอบแทน

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

การวางแผนส่งต่อมรดกด้วยประกันชีวิต

1. ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือช่วยปกป้องทรัพย์สิน
การมีประกันชีวิตช่วยให้ครอบครัวสามารถรับมรดกอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้เงินหรือทรัพย์สินในครอบครัวเพื่อชำระหนี้สิน หรือเสียภาษีที่สูง

2. จัดการภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายภายหลังการเสียชีวิต
การมีประกันชีวิตสามารถช่วยปิดหนี้สินที่ค้างคา เช่น หนี้สินบ้าน รถยนต์ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งลดภาระทางการเงินให้กับครอบครัว

3. ลดปัญหาความขัดแย้งในการแบ่งทรัพย์สิน
ประกันชีวิตสามารถระบุผู้รับประโยชน์ได้ชัดเจน ทำให้การส่งต่อทรัพย์สินและเงินเกิดขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตามกฎหมาย ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสมาชิกครอบครัว

4. การวางแผนภาษีมรดกและภาษีทรัพย์สิน
ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือที่ดีในการวางแผนเพื่อลดภาระภาษีมรดกและภาษีทรัพย์สิน เนื่องจากเงินประกันชีวิตที่ผู้รับผลประโยชน์ได้รับมักจะได้รับการยกเว้นภาษีบางประเภท

5. การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
การวางแผนด้วยประกันชีวิตเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีได้แม้ในยามที่ขาดเสาหลักไป

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ติดต่อตัวแทน
ภัทรภร วริชพัฒนกร

ภัทรภร วริชพัฒนกร ( ตูน )
รหัสตัวแทน 687570
เลขที่ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต 6701022900
เลขที่ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน 132278
AIA
ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ
ภัทรภร วริชพัฒนกร