ตัวแทนประกันชีวิต และ ที่ปรึกษาการเงิน เอไอเอ

“ Financial Advisor ”
AIA
ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ
ภัทรภร วริชพัฒนกร

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

แผนประกันยอดนิยม

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

เอไอเอ สมาร์ท เวลท์ เพรสทีจ (ยูนิต ลิงค์)

• ชำระเบี้ยประกันภัยเพียงครั้งเดียว

• ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย สำหรับเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว

• เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทน เบี้ยประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่าย จะถูกนำไปลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ได้รับการ เลือกสรรโดย AIA

• ส่วนลดค่าการประกันภัย(COI)

เหมา เบิ้ล คุ้ม ยกระดับความคุ้มครอง ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมรับการดูแลที่หลากหลาย

•ผลประโยชน์เหมาจ่าย

• ผลประโยชน์สูงสุด 25 ล้านบาท ต่อรอบปกรมธรรม์

• กรณีเป็นโรคร้ายแรง2 ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า และต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปีกรมธรรม์

โรคร้าย เจอ จ่าย หลายจบ ครบถึงการดูแล

ผลประโยชน์สูงสุด 800% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

• โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง คุ้มครองสูงสุด 5 ครั้ง

• โรคร้ายแรงระดับรุนแรง คุ้มครองสูงสุด 6 ครั้ง

ประกันชีวิตควบการลงทุนสำหรับคนรักอิสระ

• คุ้มครองตลอดชีพ (ถึงอายุ 99 ปี)ตราบเท่าที่มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน มีพอหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามตาราง ค่าธรรมเนียมกรมธรรม์

• ปรับเปลี่ยนได้ทุกช่วงของชีวิต ตราบเท่าที่มูลค่ารับซื้อคืนหนˆวยลงทุน มีพอหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามตาราง ค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ เพิ่ม/ลด ความคุ้มครอง เพิ่ม/ถอน เงินออม หรือหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย (ภายใต้เงื„อนไขที่บริษัทกำหนด)

• เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง

• ผลประโยชน์ กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง*

อุบัติเหตุส่วนบุคคล

เอไอเอพร้อมมอบหลักประกันหลากหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักแค่ไหน เตรียมพร้อมรับมือกับทุกความเสี่ยงด้วยประกันอุบัติเหตุจากเอไอเอ ที่จะช่วยคุณแบ่งเบาค่าใช้จ่าย ให้ความคุ้มครอง คนที่คุณรัก และตัวคุณเอง

อุบัติเหตุนับเป็นเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิด เป็นเหตุสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน สุขภาพ หรืออาจถึงแก่ชีวิต โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว อุบัติเหตุมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบัน การเดินทางโดยใช้ยานพาหนะส่วนตัว หรือรถขนส่งสาธารณะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง

เอไอเอ สะสมทรัพย์ 15/25 (ไม่มีเงินปันผล)

• ชำระเบี้ยประกันภัย 15 ปี รับความคุ้มครอง 25 ปี

• เงินจ่ายคืนรายงวด

• บริษัทจะยกเว้นการชำระเบี้ยประกันภัยของแบบประกันภัยหลัก หากเกิดกรณีทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ก่อนอายุครบ 60 ปี

• บี้ยประกันภัยใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ ตามที่กฎหมายกำหนด

บทความ

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

ทุนประกันชีวิตสำคัญเพราะเหตุผลหลายประการ:

1. **ความมั่นคงทางการเงิน**: ทุนประกันชีวิตช่วยให้ครอบครัวของผู้เอาประกันมีเงินเพียงพอในการดำรงชีวิต หากผู้เอาประกันเสียชีวิต

2. **ชำระหนี้สิน**: สามารถใช้เงินจากทุนประกันชีวิตเพื่อชำระหนี้สินต่าง ๆ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือหนี้บัตรเครดิต

3. **ค่าใช้จ่ายในการศึกษา**: สามารถใช้เงินจากทุนประกันชีวิตเพื่อการศึกษาของบุตรหลานได้

4. **ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต**: ช่วยให้ครอบครัวของผู้เอาประกันสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

5. **การวางแผนการเงินระยะยาว**: ทุนประกันชีวิตสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาว เช่น การเก็บออมเพื่อการเกษียณ

6. **ความสงบใจ**: การมีทุนประกันชีวิตทำให้ผู้เอาประกันมีความสงบใจ รู้ว่าครอบครัวจะได้รับการดูแลหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ทุนประกันชีวิตจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นคงและความมั่นใจในการดำเนินชีวิตของครอบครัวผู้เอาประกันในอนาคต

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษี

ประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการลดหย่อนภาษีที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมายของประเทศไทย การซื้อประกันชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยให้มีความคุ้มครองสำหรับตัวเองและครอบครัว แต่ยังสามารถใช้เป็นประโยชน์ในการลดภาระภาษีได้ด้วย

การลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันชีวิต

1. **ประกันชีวิตทั่วไป**:
– เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระเพื่อทำประกันชีวิตให้ตนเอง สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
– ประกันชีวิตต้องมีอายุกรมธรรม์ไม่น้อยกว่า 10 ปี

2. **ประกันสุขภาพ**:
– เบี้ยประกันสุขภาพที่ชำระสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
– เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี



เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด: บทบาทของประกันชีวิต

ในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและชาญฉลาดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้คุณและครอบครัวมีความมั่นคงและปลอดภัยทางการเงิน หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในการวางแผนการเงินคือ “ประกันชีวิต” ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงทางการเงินของครอบครัว ดังนี้:

1. **การคุ้มครองรายได้**
ประกันชีวิตช่วยให้ครอบครัวของคุณมีความมั่นคงทางการเงินในกรณีที่คุณเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเสียชีวิตหรือการทุพพลภาพที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ ประกันชีวิตจะช่วยคุ้มครองรายได้ของครอบครัว เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน

2. **การชำระหนี้สิน**
หากคุณมีหนี้สิน เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ประกันชีวิตสามารถช่วยชำระหนี้สินเหล่านี้ในกรณีที่คุณไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินที่อาจตกอยู่กับครอบครัว


เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ถ้าอีก5ปี เป็นโรคร้ายแรง คิดว่าควรเตรียมเงินไว้ที่เท่าไหร่???

การเตรียมเงินสำหรับการรักษาโรคร้ายแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของโรค ค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลระยะยาว และสถานพยาบาลที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ ซึ่งในประเทศไทยนั้นคาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8-10% ต่อปี

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ควรพิจารณา:

1. ค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้น: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มีค่าใช้จ่ายสูงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคและวิธีการรักษา
• การรักษามะเร็งอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 ถึง 1,000,000 บาทต่อปี
• การผ่าตัดหัวใจอาจมีค่าใช้จ่าย 400,000 ถึง 700,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายระยะยาว: หากต้องมีการรักษาต่อเนื่อง เช่น การทำเคมีบำบัด รังสีบำบัด หรือการฟื้นฟูร่างกาย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีหลังการรักษาหลัก
3. ค่าดูแลเพิ่มเติม: อาจต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลที่บ้าน (Home Care) หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายได้อีกหลายหมื่นถึงแสนบาท
4. ค่าครองชีพระหว่างการหยุดงาน: หากคุณไม่สามารถทำงานได้ในระหว่างการรักษาหรือฟื้นฟู อาจต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่หายไปในช่วงนี้ ซึ่งควรเตรียมเงินสำรองไว้ประมาณ 1-3 ปีของรายได้ปัจจุบัน

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ทำไมถึงควรมีประกันโรคร้ายแรง ?

1. คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่สูง: การรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจวาย หรือไตวาย มักมีค่าใช้จ่ายสูงมาก รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการรักษาแบบเฉพาะทาง และการดูแลหลังการรักษา ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้น

2. คุ้มครองรายได้ที่หายไป: เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง ผู้ป่วยมักจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้สูญเสียรายได้ไป ประกันโรคร้ายแรงสามารถให้เงินก้อนเพื่อช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป ช่วยให้คุณและครอบครัวสามารถรับมือกับสถานการณ์ทางการเงินได้ดีขึ้น

3. ลดภาระของครอบครัว: การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวด้วย การมีประกันโรคร้ายแรงจะช่วยลดภาระด้านการเงินให้กับคนในครอบครัว และทำให้พวกเขาสามารถมีเวลาและพลังใจในการดูแลคุณได้ดียิ่งขึ้น

4. สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด: ด้วยการสนับสนุนจากประกันโรคร้ายแรง คุณสามารถเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุด และโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้มีโอกาสหายหรือฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

5. เสริมสร้างความอุ่นใจ: การมีประกันโรคร้ายแรงช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกี่ยวกับสุขภาพ คุณและครอบครัวจะมีหลักประกันทางการเงิน ช่วยให้คุณสามารถมีสมาธิกับการฟื้นฟูร่างกายมากกว่าการกังวลเรื่องเงิน

6. คุ้มครองหลากหลายโรค: ประกันโรคร้ายแรงมักครอบคลุมหลากหลายโรค ทั้งโรคที่พบบ่อยและโรคที่รุนแรง ซึ่งทำให้คุณได้รับการปกป้องที่ครอบคลุมมากขึ้น

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

New Health Standard

รายละเอียดเปรียบเทียบระหว่างมาตรฐานใหม่กับแบบเก่า:

1. ความครอบคลุมของโรค
• แบบเก่า: มีความครอบคลุมของโรคที่จำกัด บางโรคหรือเงื่อนไขอาจไม่ได้รับความคุ้มครองหรือได้รับการคุ้มครองบางส่วน
• แบบใหม่: ขยายความครอบคลุมให้ครอบคลุมโรคและเงื่อนไขทางการแพทย์ที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรง
2. ความโปร่งใสในเงื่อนไขการรับประกัน
• แบบเก่า: บางครั้งอาจมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคสับสนและเข้าใจผิด
• แบบใหม่: มีการระบุเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ชัดเจนและโปร่งใสขึ้น ทำให้ผู้บริโภคทราบถึงสิทธิและข้อจำกัดของกรมธรรม์อย่างชัดเจน
3. การพิจารณาและยกเว้น
• แบบเก่า: มีเงื่อนไขการยกเว้นที่ค่อนข้างกว้าง เช่น การยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อน (Pre-existing conditions) หรือการรักษาบางประเภท
• แบบใหม่: ลดข้อยกเว้นลง เช่น การพิจารณาโรคที่เป็นมาก่อนจะเน้นที่ความเป็นธรรมมากขึ้น และให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
4. การปรับปรุงเบี้ยประกัน
• แบบเก่า: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันมักไม่ได้อิงกับความเป็นจริงหรือการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัยในปัจจุบัน
• แบบใหม่: การปรับเพิ่มเบี้ยประกันจะพิจารณาจากข้อมูลสุขภาพจริงของผู้เอาประกันภัย และมีการกำหนดมาตรฐานในการปรับเบี้ยประกันที่เป็นธรรม
5. การเคลมประกัน
• แบบเก่า: อาจมีขั้นตอนการเคลมที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการพิจารณา
• แบบใหม่: ปรับปรุงขั้นตอนการเคลมให้รวดเร็วและโปร่งใสขึ้น มีการกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเคลมที่ชัดเจน
6. การคุ้มครองผลประโยชน์เพิ่มเติม
• แบบเก่า: อาจมีผลประโยชน์เพิ่มเติมไม่มากนัก
• แบบใหม่: เพิ่มความคุ้มครองและผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ค่าห้องพัก การรักษาฉุกเฉิน และการตรวจสุขภาพ

เรียบเรียงข้อมูลโดย ภัทรภร วริชพัฒนกร

ติดต่อตัวแทน

ภัทรภร วริชพัฒนกร

ภัทรภร วริชพัฒนกร ( ตูน )
รหัสตัวแทน 687570
เลขที่ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต 6701022900
เลขที่ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน 132278
AIA
ตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ
ภัทรภร วริชพัฒนกร